วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558

พญาปลิงคำ ดูดโชคลาภ เรียกคู่

พญาปลิงคำ 

ในวิชาตำหรับล้านนา วิชาพญาปลิงคำเป็นวิชามหาเสน่ห์ แขนงหนึ่ง จัดเป็นเครื่องรางที่มีอิทธิคุณทำให้ผู้พกพาบูชา มีเสน่ห์เย้ายวนดึงดูดคู่ครอง และทำให้คู่รักติดอกติดใจ ร่วมรักเสพสมมิรู้เลิกรา อีกทั้งยังช่วยให้เรียกทรัพย์ ดูดโชคลาภ ให้เข้ามาหาผู้เป็นเจ้าของ ติดร้านใว้ค้าขายเรียกลูกค้า ซื้อแล้วต้องกลับมาซื้ออีก เสมือนดังว่าติดอกติดใจ ด้วยเพราะปลิงเป็นสัตว์มี2เพศในตัว จึงดึงดูดได้ทั้งเพศชายและหญิง ดังนั้นจึงสามารถพกพาอารธนาใช้ได้ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น ชาย หญิง ตุ๊ด ดี้ เกย์ กระเทย ทอม เลสเปี้ยน 

เครื่องรางพญาปลิงคำ อาจารย์ท่านได้รวบรวมผงมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ อาทิเช่นแร่ดูดทรัพย์ เหล็กเปียก แร่เหล็กน้ำพี้ ผงพระสีวลี ผงมหาลาภต่างๆ และได้ฝังตำกรุดพญาปลิงคำตามตำราโบราณใว้ใต้ท้องตัวพญาปลิงคำด้วย


เช่าบูชา 699 บาท 

จัดส่งไปษณีย์ emsฟรี ทั่วไทย


พญา ปลิงคำ เรียกโชค ดูดลาภ

ตะกรุด ปราบเมีย วิชาตำหรับเสน่ห์มอญ (เสน่ห์มอญ)

ตะกรุด ปราบเมีย วิชาตำหรับมอญ (เสน่ห์มอญ)


ตะกรุด ปราบเมีย เป็นเครื่องรางที่นำพาให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ใครมีแฟนดุ งี่เง่า ขี้โมโห ขี้วีน โวยวายเก่ง แฟนไม่ค่อยสนใจ กลัวรักไม่ยืด ไม่ยืนนาน ลองใช้ตะกรุดนี้ รับรองไม่ผิดหวัง  

พกพาติดตัวใว้เป็นเสน่ห์ เมตตามหานิยม เจรจาติดต่องานสะดวก ผู้ใหญ่เอ็นดู แฟน สามี ภรรยาเชื่อฟัง อยู่ในโอวาท ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย พกพาได้ไม่มีเสื่อม

จัดสร้างโดย อาจารย์ พงษ์ พุทธาคม

ค่าครูบูชาดอกละ 559 บาท จัดส่งไปษณีย์ emsฟรี ทั่วไทย


ติดต่อที่


ตะกรุดเก้ากุ่ม ตำหรับล้านนา

ตะกรุดเก้ากุ่ม ตำหรับล้านนา


ตะกรุด9กุ่ม นับเป็นของดีของค้ำของคุณในสายล้านนา 

ที่ตำราระบุว่ามีค่าควรเมืองดังแก้วมณีโชติ 

อิทธิคุณเป็นทางมหาเสน่ห์เมตตาสารพัดนึก 

สร้างได้ปีละหนตามฤกษ์ เมื่อแข่งกับเวลาฤกษ์จึงสร้างได้จำนวนไม่มากต่อปี จึงเป็นของดี ของค้ำของคูณ น่าเก็บใว้ใช้พกพาติดตัวเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งการหาบูชาแม้แต่วัดในภาคเหนือก็ยังนับว่าหายาก จึงเป็นที่ไม่ควรพลาดหากมีโอกาศที่จะได้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง







ตะกรุดหนีบ ตำหรับล้านนา


ตะกรุดหนีบ ตำหรับล้านนา 



ตะกรุดหนีบ เป็นวัตถุมงคล เครื่องรางของชาวล้านนามาช้านาน จัดเป็นเครื่องรางยอดนิยมในสมัยก่อน ที่คนโบราณมักพกติดตัว ใว้ไปติดต่อค้าขาย เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่เจ้าขุนมูลนาย ให้รักใคร่ เมตตา สงสาร เข้าหาสตรีเพศ ให้ตรั่งใคร้ หลงไหล

ท่านอาจารย์พงษ์ ได้ร่ำเรียน สืบทอดตำราทางล้านนาเมืองเหนือให้หลายตำหรับ เมื่อทบทวนตรวจทางตำราหลายเล่มพร้อมกันแล้ว เห็นว่าตำราทางเหนือล้วนมีตะกรุดหนีบอยู่ในทุกหัวเมืองโบราณ ทั้งเชียงใหม่ ลำบาง น่าน จึงได้ดำริสร้างตะกรุดหนีบเพื่อสืบทอดตำหรับไสยเวทย์โบราณให้คงอยู่ และใว้ให้สำหรับผู้ที่อยากให้คนรักใคร่ มีเมตตา มหาเสน่ห์ นะจังงังติดตัว ท่านว่าแค่พกคนก็เมตตาแฟนก็หลง 
ถ้ายังไม่มีคู่ชอบใครก็เอาชื่อคนนั้นลงใบรักอธิฐานดีๆสอดใส่ให้ตระกรุดหนีบใว้ 
แล้วไปคุยได้เลย เมตตาแรงแน่นอน

อาจารย์ พงษ์ พุทธาคม

อาจารย์ พงษ์ พุทธาคม

อาจารย์ พงษ์ พุทธาคม

อาจารย์ สักยันต์ จอมขมังเวทย์ ชำนานทั้ง สัก เสก เลข ยันต์ ว่าน ยา คาถา อาคม โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ จัดว่ารอบรู้ไม่เป็นรองใคร


ประวัติ 

ของลูกจากสิงศักดิ์สิทธิ์

      หากจะกล่าวถึงชาติกำเนิด ของท่านอาจารย์ พงษ์ พุทธาคม แล้วละก็คงต้องเล่าย้อนความไปถึงสมัยที่คุณแม่ของอาจารย์ ท่านแต่งงานในช่วงอายุย่างเข้า 40 ปี นับว่าอายุมากแล้วสำหรับหญิงที่จะแต่งงานมีลูก ด้วยความเกรงว่าจะไม่มีลูกหรือมีแล้วไม่แข็งแรง เลยได้ไปบนบานวอนขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ตนนับถือ ในสมันนั้นมีศาลเทพาอันศักดิ์สิทธิ์ ของพ่อแก่แห่งเขาชีจรรย์ ที่ไม่ว่าใครไปลบหลู่ได้เห็นดี คนทรงประจำศาล ชื่อ แม่จำลอง เป็นร่างทรง ได้ประทับทรงองค์พ่อแก่ และได้บอกว่าจะให้มีบุตรสืบสกุล แต่ต้องยกให้เป็นลูกหลายพ่อแก่ 

แรกเกิดนั้น สุขภาพไม่แข็งแรง น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ทั้งยังเกิดมาไม่มีทวารหนัก จึงต้องได้รักการผ่าตัดแต่แรกเกิด คนโบราณในสมัยนั้นจึงแนะนำให้มารดานำไปฝากเป็นลูกพระ แม่จึงนำตัวไปถวายให้เป็นลูกพ่อแก่ตามคำสัญญา 
     คงจะด้วยเหตุนี้กระมั้ง จึงทำให้ท่านอาจารย์พงษ์ จึงมีวาสนาที่ต้องคอยพัวพันกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมอ

สัมผัสพิเศษ

     ถ้าจะกล่าวถึงชีวิตในวัยเด็กวัย3-7ปี ของท่านอาจารย์พงษ์ พุทธาคมนั้น นับเป็นการใช้ชีวิตแตกต่างจากเด็กทั่วไปโดยสิ้นเชิง เพราะแทนที่ท่านจะเที่ยวเล่นเหมือนเด็กทั่วไป ท่านกลับชอบปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ พูดคุยสนธนาซักถามข้อหลักธรรมกับพระภิกษุ และพูดคุยเชิงความรู้กับผู้สูงอายุ
 นอกจากการพูดจาของท่านอาจารย์ ในวัยเด็กที่มีเหตุมีผล อิงหลักธรรมเหมือนผู้ใหญ่แล้ว ท่านยังมีสัมผัสพิเศษ ทำนายทายทักเหตุการล่วงหน้าได้แม่นยำ จนเป็นที่เลื่องลือว่าเป็นเด็กพิเศษ จนสุดท้ายเรื่องชักไปกันใหญ่ ด้วยความเป็นห่วง แม่ท่านจึงสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวพูดคุย กับเรื่องราวทำนองนี้กับใครอีกเด็ดขาด ก็ถ้าลูกเป็นอย่างนี้ใครบ้างละจะไม่ห่วง

เรียนวิชาจากตำราบรรพบุรุษ


    อันชื่นว่าคนมีบุญวาสนาหนีอย่างไร ก็ใช่จะหนีพ้น โชคชะตาก็ขีดเส้นนำทางให้ต้องมาเป็นอาจารย์ช่วยคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท่านอาจารย์ในวัย10 ปี ที่มักหาหนังสืออ่านไปเรื่อยเปื่อย จนไปซุกซนค้นหนังสือเก่าที่พ่อแม่เก็บใว้  และพบตำราของคุณปู่ชั๊วปู่ของท่านที่เป็นหมอกลางบ้าน มีทั้งตำราโหราศาสตร์ กับตำรายา แถวพบเสื้อยันต์ผู้โพกศรีษะและตำราเก่า ลายมือหลวงพ่ออี๋วัดสัตหีบ ที่คุณตาเฮงคุณตาของท่าน เคยเก็บรักษาไว้ ท่านได้แอบเรียนและจดจำนำมาช่วยผู้คนทดลองวิชาเรื่อยมา


มีครูปกปักรักษา

     ในขณะที่การช่วยคนก็ดำเนิมาเรื่อยๆ จนคุณพ่อคุณแม่ของท่านเริ่มยอมรับต่อโชคชะตา และเส้นทางชีวิตที่ท่านเลือกเดิน คุณแม่ของท่านอาจารย์ถึงจะเปิดใจยอมรับก็จริงอยู่ แต่ยังเกรงว่าหากไม่มีครูบาอาจารย์แนะนำสักวันต้องบ้าบอ เพี้ยนไปแน่ จึงได้พาไปหาครูดีๆให้เป็นครูที่ช่วยแนะนำให้ ซึ่งในสมันนั้นการจะหาครูบาอาจารย์ก็ไม่ใช่หากันง่ายๆ คุณแม่ท่านรู้จักเป็นเพื่อนสนิดคุ้นเคยกับร่างทรงท่านหนึ่ง ที่เป็นของแท้มีปาฏิหาริย์ปรากฏเป็นที่เด่นชัดให้คุณแม่ได้สัมผัส บ่อยครั้ง นั่นคือร่างทรงเจ้าพ่อนพเกล้า จึงได้นำลูกมาฝากตัวใช้ช่วยแนะนำ เมื่อเจ้าพ่อประทับทรงกลับให้ความสนิดเรียกท่านอาจารย์ว่าหมอน้อย และได้มอบขันต์ครูให้พร้อมบอกว่าเด็กคนนี้มีครูพ่อแก่รักษาอยู่แล้ว รับขันต์ไปเพียงเพื่อปฏิบัติก็พอ อนาคตจะได้สร้างบารมช่วยคนแน่นอน นับแต่วันที่ได้มีครูเป็นเรื่องเป็นราว วิชาที่ท่านมีก็ก้าวหน้าจนเป็นที่รู้จักอีกครั้ง ใครเดือดเนื้อร้อนใจอะไรก็จะผ่อนคลายไปเมื่อได้รับการช่วยเหลือแนะนำ จากท่านอาจารย์พงษ์ พุทธาคม

สู่การบรรพชาแสวงหาสัจธรรม

     หลังจากการรับขันต์ครูมาศึกษาปฏิบัติ นานวันเข้าจิตใจท่านอาจารย์ก็ได้คิดถึงแต่การสร้างสมบารมี และการสร้างบารมีจะมีวิธีไหนดีไปกว่าการบวชได้ ท่านจึงคิดหวังถึงการบวชอยู่ตลอดมา จนเมื่อจบการศึกษามัถยมปีที่3 ท่านจึงขอคุณแม่ออกบวช แต่ท่านไม่ยอม ท่านจึงจำใจต้องหนีออกจากบ้าน โดยได้รับการช่วยเหลือจากพระภิกษุที่ท่านรู้จัก จนในที่สุดแม่ท่านก็ต้องจำใจยอมต่อข้อเรียกร้องในการบวช อาจารย์พงษ์ พุทธาคม ได้ออกบรรพชาเป็นสามเณร ติดตามรับใช้ครูบาอาจารย์ คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระครูสังฆรักษ์บุญส่ง อุปสโม ด้วยความสามารถและความเฉเลียวฉลาดของท่านอาจารย์พงษ์ ทำให้หลวงพ่อมีความเมตตาต่อท่านอย่างมาก ได้ติดตามหลวงพ่อเดินทางไปทั่วประเทศไทย มีโอกาศได้กราบนมัสการ รับฟังโอวาทธรรมะ คำสอน และความรู้มากมาย จากพระเกจิคณาจารย์ หลายรูป ทั่วประเทศ 

เรียนวิชาหาของจริงถึงชายแดนเขมร


หลังจากการบวชเณรศึกษาปฏิบัติได้นานถึง 3 ปีกว่า ได้ทราบข่าวว่าคุณพ่อป่วย และคุณแม่ก็ต้องคอยดูแล ถึงในใจท่านจะไม่อยากลาสิกขาแต่ก็ตัดใจสึกออกมาเพื่อทำหน้าที่ลูกที่ดี และปลงใจไว้ว่าหากมีโอกาศดี ภาระทางบ้านสิ้นสุดลงท่านคงได้บวชอีก ก่อนสึกท่านได้รับคำแนะนำจากเพื่อนสนิดของท่านว่าควรหาวิชาสักยันต์ติดตัวไว้บ้าง หลังจากสึกแล้วก็ได้แสวงหาวิชาในฐานะฆราวาส ตามความสะดวกและเวลาที่ว่างเว้นจากการงานทางบ้าน 

จนได้พบครูสักท่านแรก คือ อาจารย์ประเวทย์ ซึ่งเป็นลูกชายของหลวงพ่อสมหวัง แห่งเขาสมิง ปรมจารย์ท่านหนึ่งในสายสักยันต์พ่อแก่ ได้ร่ำเรียนอยู่พอสมควร 
และได้รับการฝากฝังให้เป็นศิษย์ อาจารย์ยี แห่งโค้งสนามเป้า ซึ่งท่านเป้นศิษย์สายตรงจากท่านพ่อเยื่อ วงศ์น้อย ปรมจารย์ในตำนานของสายสักยันต์พ่อแก่
ต่อมาจึงได้ไปศึกษากับท่านอาจารย์วีรพงศ์ แห่งอำเภอพายุ จังหวัดศรีสะเกด ท่านอาจารย์พงษ์ได้ติดตามอาจารย์วีรพงศ์เดินทางธุดงค์เรียบชายแดนประเทศเขมร เพื่อเป็นประสปการในการศึกษาพบเจออาคมเขมรของจริง เรื่องราวที่ประสปมาคงไม่อาจนำมากล่าวให้จบลงในที่นี้ได้ คงบอกได้แต่เพียงแค่ว่าของในแถวชายแดนยังมีอยู่มาก แม้นแต่ทหารในแถบนั้นก็ยังไม่อยากที่จะ แตะต้องคณะเดินทางใดๆที่เดินทางในแนวธุดงค์ปฏิบัติในแถบนี้ เพราะเกรงในเวทย์วิทยาคม ก็ลองคิดกันเล่นๆดูซิว่า ใครจะอยากเอาชีวิตมาเสี่ยงกับของไม่เห็นตัว

หลังจากนั้นท่านอาจารย์พงษ์ ยังได้ออกเดินทางไปของเรียนวิชาจากครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน  ไม่ว่าจะเป็นสายฤาษี ทั้งในภาคเหนือ ภาคอิสาน และสายสักยันต์ในภาคกลาง
แล้วจึงมาศึกษาวิชาในสายหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่หน่ายวัดบ้านแจ้ง กับท่านอาจารย์โพธิ์ดำ

การศึกษาและปฏิบัติที่ไม่มีวันจบ


หลังจากการเที่ยวตระเวรศึกษาหาความรู้ไปทั่วทุกสารทิศ จนเป็นที่พอใจแล้ว ท่านอาจารย์พงษ์ พุทธาคม ก็ได้เปิดสำนักเพื่อเผยแพร่คุณธรรม วิชาความรู้ และช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนต่างๆ ด้วยวิชาความรู้ที่เล่าเรียนมา 

ไม่ว่าใครที่ได้มาฝากตัวเป็นศิษย์ของท่าน ท่านก็มักจะสั่งสอนศิษย์ให้ดำรงค์ตนอยู่ในศิลธรรม คุณงามความดี อย่าได้เอาวิชาที่ท่านให้ไปทำให้ใครเดือดร้อน มิเช่นนั้นกรรมก็อาจตกแก่ทั้งท่านและศิษย์ 
ถึงในทุกวันนี้จะมีคนเข้ามาฝากตัวเป็นศิษย์ท่านมากมายเพียงไหน ท่านอาจารย์พงษ์ ก็ยังคอยหาเวลาปฏิบัติ และศึกษาแสวงหาความรู้เพื่มเติม เพื่อพัฒนาตนให้ยิ่งๆขึ้นไป
ท่านบอกว่า "สำหรับท่านแล้ว เรื่องวิชามันเรียนได้ไม่รู้จบ ไม่มีวันอิ่ม ไม่มีวันพอ" 
จึงนับว่าท่านเป็นผู้คงแก่เรียนอย่างยิ่ง อันหาได้ยากในยุคปัจจุบันนี้


ตำราที่ท่านเรียนมามีตั้งแต่ การทำนายดวงชะตา ด้วยตำราต่างๆทางโหราศาสตร์ เลขศาสตร์ และอื่นๆอีกมาก
การลงเสน่ห์ ลงทอง นะเมตตา สาริกา นะ7จุด ต่อเส้นลายมือ ต่อชะตา พลิกชะตา เสริมราศรี สักเสกเลขยันต์ ลงคาถาอาคม อาบน้ำมนต์ สะเดาะพระเคราะห์ ทำเทียนเสริมดวง สืบชะตา ฆ่าอาถรรพณ์ไฝ-ปานบนร่างกาย ทำเครื่องรางต่างๆใว้เสริมตัวด้านเมตตา แคล้วคลาด มหาเสน่ห์ คงกระพัน เรียกว่ามีครบถ้วนเจนจบ

อาจารย์ท่านร่ำเรียนมาหลายสาย จนเป็นที่ยอมรับกัน ในกลุ่มอาจารย์ และลูกศิษย์ แถบ พัทยา สัตหีบ ว่ามีวิชาอาคม ตำหรับตำรา ร่ำเรียนมามาก อีกทั้งประสปการที่เจนจัด ในการทำพิธีต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงเป็นสุดยอดฆราวาสที่น่านับถือ อีกท่านนึงที่ต้องนำคุณงามความดี และจาริยะวัตรที่น่าเคารพ มาเผยแผ่ให้สังคมรับรู้ คำกลอนโบราณว่าใว้ว่า

เพชรย่อมฉาย ประกายกล้า ให้ปรากฏ
แม้นถูกบด บังอยู่ ในภูผา
เปรีบยเสมือน คนดี มีวิชา
อยู่ที่ไหน ไม่ไร้ค่า หน้าภูมิใจ

คนที่มีความน่าเคารพ น่าเข้าใกล้ น่าต้อนรับ น่าเกรงใจ มีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน .. คือ
  1. ผู้มีคุณธรรมสูง เช่นพระอริยะบุคคล และผู้กระทำความดี
  2. ผู้มีสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ
  3. ผู้มีสุขุมาลชาติ คือรูปร่างผิวพรรณงดงาม
เมื่อพิจารณาดังคำโบราณว่า ก็จะเป็นได้ว่า ท่านอาจารย์ท่านนี้ จัดเป็นยอดบุคคลที่น่านับถือ

สนใจติดต่อที่  https://www.facebook.com/profile.php?id=100005962051265&fref=ts

Id Line : pbbt 

ดูลายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://themagiccharmtalismanpattaya.blogspot.com/